สอบถามปรึกษาพร้อมรับโปรโมชั่น
อาการปวดประจำเดือนแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน
ปวดประจำเดือนประเภทปฐมภูมิ (Primary Dysmenorrhea) เป็นอาการปวดประจำเดือนที่พบบ่อยที่สุด สาเหตุมักเกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกผลิตสารโพรสตาแกลนดินมากเกินไป
ปวดประจำเดือนประเภททุติยภูมิ (Secondary Dysmenorrhea) เกิดจากภาวะผิดปกติของมดลูกหรืออวัยวะสืบพันธุ์อื่นๆ เช่น
เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก ซึ่งเมื่อเจริญผิดที่แต่ยังทำหน้าที่สร้างประจำเดือนเหมือนเดิม ทำให้เลือดประจำเดือนมีสีแดงคล้ำ ปวดท้องน้อยอย่างรุนแรงและมีบุตรยาก
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดประจำเดือนอย่างมาก และ/หรือ เลือดประจำเดือนมากและยาวนานกว่าปกติ
ช็อกโกแลตซีสต์ หรือ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ Endometriosis เป็นต้นเหตุของอาการปวดท้องน้อยเวลามีประจำเดือน ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องกินยาแก้ปวด กินยามากขึ้น ขาดเรียน ขาดงานบ่อย เรามาดูกันต่อค่ะ ว่าสาเหตุของช็อกโกแลตซีสต์ หรือ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ เกิดจากอะไร
สาเหตุ ของช็อกโกแลตซีสหรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ Endometriosis เกิดจากภาวะเลือดประจำเดือนที่จะไหลออกมา แต่มีบางส่วนที่เลือดไหลย้อนกลับ เป็นภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ เพราะเลือดไหลกลับมาตกค้างอยู่บริเวณรังไข่ นานๆ เข้า ก็กลายเป็นเหตุให้เกิดจุดๆ เป็นสีน้ำตาล จึงมีลักษณะเหมือนน้ำช็อกโกแลต
ตำแหน่งที่เกาะ
เยื่อบุช่องท้อง
อุ้งเชิงกราน
รังไข่
มดลูก
ท่อรังไข่
ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ใหญ่
ปวดประจำเดือน มากผิดปกติจนต้องใช้ยารักษา และอาการจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ประจำเดือนออกมากผิดปกติ อาจมาเป็นลิ่มๆ ถ้ารุนแรงจะเกิดภาะซีดได้
ถุงน้ำรังไข่ ( Chocolate cyst) ปวดท้องน้อย
ปวดในช่องท้อง ท้องน้อย หรืออุ้งเชิงกราน
บางรายอาจมีอาการปวดหรือเจ็บที่มดลูกหรือท้องน้อยขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือมาด้วยภาวะมีบุตรยาก
อาการปวดต่าง ๆ เหล่านี้ มักจะรุนแรงขึ้นขณะที่มีประจำเดือน หรือ ช่วงก่อน/ หลังมีประจำเดือน
มีอาการปวดอย่างอื่นร่วมอยู่ด้วยเวลามีประจำเดือน เช่น มีอาการปวดไปหลัง ไปเอว ไปก้นกบ ไปหน้าขา มีอาการท้องอืด ท้องบวม ท้องใหญ่ขึ้น
ในรายที่เจริญที่รังไข่ อาจจะพบว่ามีก้อนในช่องท้อง จากถุงน้ำรังไข่ ที่โตขึ้น โดยอาจจะไม่มีอาการใดๆ แสดงออกมา
ในรายที่เป็นโรคระยะรุนแรงจะมีพังผืดเกิดขึ้นจำนวนมาก หรือท่อนำไข่ถูกทำลายไป จากเซลล์เหล่านี้ เข้าไปเกาะหรือฝังตัวในท่อนำไข่ ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหามีบุตรยากได้ หรือถ้าพังผืดไปเกาะที่บริเวณท่อไต จะทำให้ไตบวมน้ำหรือไตล้มเหลวได้
ในกรณีเยื่อบุโพรงมดลูกหรือพังผืดไปเกาะที่ลำไส้ใหญ่ชนิดรุนแรงจะทำให้ถ่ายเป็นเลือดได้
เป็นการติดเชื้อบริเวณระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิง ส่วนใหญ่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากไม่รักษาให้หายขาด ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องระหว่างมีประจำเดือนได้
มักไม่ใช่เนื้อร้าย ขนาดมีตั้งแต่เล็กมากไปจนถึงขนาดใหญ่ หากมีขนาดใหญ่ มักทำให้มีเลือดประจำเดือนออกมามากหรือประจำเดือนกระปริบกระปรอยนานเป็นสัปดาห์ พร้อมกับอาการปวดประจำเดือนหรือปวดหลังส่วนล่างแบบเรื้อรัง
เกิดจากปากมดลูกแคบเกินไป ทำให้เลือดประจำเดือนไหลได้ช้าแต่หากรูปิดสนิท จะทำให้ของเหลวคั่งค้างภายในโพรงมดลูก ทำให้เกิดอาการปวดท้องมากและเรื้อรัง
ความรุนแรงของอาการนั้นขึ้นอยู่กับว่าปากมดลูกตีบมากหรือน้อย ซึ่งอาการที่พบบ่อย ได้แก่
ปวดท้องน้อยเรื้อรัง
เมื่อมีประจำเดือนจะปวดท้องมาก เนื่องจากเลือดประจำเดือนไหลออกมาไม่สะดวก
มีประจำเดือนมาน้อย เลือดออกกะปริบกะปรอย แต่หากปากมดลูกปิดสนิท ก็จะไม่มีประจำเดือนเลย
อาจคลำพบก้อนที่ท้องน้อย เนื่องจากมีเลือดประจำเดือนคั่งค้างจนโพรงมดลูกขยาย
อาจมีไข้หนาวสั่น เนื่องจากเกิดการอักเสบในโพรงมดลูก